web 2.0 design ***
Nov 13th
เรามาดูกันเถอะว่า ส่วนประกอบของดีไซน์ยุคใหม่นั้นมีอะไรกันบ้าง
-
เรียบง่าย
ความเรียบง่ายหมายถึงการใช้จำนวน pixel ตามที่ต้องใช้เพื่อให้สื่อสารสิ่งที่ต้องการให้ได้และในการสื่อสารนั้นก็ประกอบไปด้วย ข้อมูลหลัก hard data และ เนื้อหาที่ซ่อนอยู่ soft information
ตัวอย่างของข้อมูล
- Hard data – ข้อมูล สาระ เนื้อหาสำคัญที่ต้องการจะสื่อ เช่น ข่าว ราคาสินค้า ตารางเวลารถไฟ
- Soft Information – ความรู้สึก บรรยกาศของหน้าเว็บ เปรียบเทียบได้กับความรู้สึกเมื่อแรกพบของผู้ชมที่มีต่อเว็บ ว่าน่าไว้ใจแค่ไหน จะเหมาะสมกับผู้ใช้หรือไม่
ตัวอย่างที่ดี
-
เนื้อหาอยู่กึ่งกลาง
จากที่เคยกล่าวถึงไปเมื่อบทความก่อนหน้านี้ evolution of css layout ว่าหน้าเว็บในปัจจุบันเริ่มถูกออกแบบให้มีเนื้อหาอยู่กึ่งกลาง ตอนนี้เราก็สรุปได้แล้วว่าการวางเนื้อหาไว้ตำแหน่งกลางหน้าเว็บนั้น เป็นหลักการออกแบบที่ดีของดีไซน์ยุค 2.0
ซึ่งเหตุผลก็คือ การวางเนื้อหาไว้กึ่งกลางหน้าเว็บนั้น สามารถแสดงถึงความเรียบง่าย และตรงไปตรงมาได้ และจากการที่เราใช้จำนวน pixel อย่างประหยัดทำให้เราไม่ถูกกดดัน ให้ยัดเยียดเนื้อหาจำนวนมาก ไว้ในพื้นที่เล็กๆ เราสามารถสื่อได้มากกว่าจากความเรียบง่าย และเหตุผลเดียวที่เราอาจจะไม่เลือก ที่จะออกแบบเนื้อให้อยู่กึ่งกลางหน้าเว็บ คือ กรณีที่เราต้องการยัดเนื้อหาไว้ในหน้าเว็บเยอะๆ อย่างเช่น หน้าเว็บของ web application
-
น้อยคอลัมน์
เมื่อไม่กี่ปีก่อนเราจะเห็นหลายๆเว็บแบ่งเนื้อหาในหน้าเว็บเป็น 3-4 คอลัมน์ แต่ปัจจุบันส่วนใหญ่จะใช้แค่ 2 คอลัมน์ หรืออย่างมากก็ 3 เข้าข่ายยิ่งน้อยยิ่งดี ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการที่จัดให้หน้าเว็บอยู่กึ่งกลางจอด้วย ทำให้เราไม่ต้องบรรจุเนื้อหาให้เต็มหน้าจอ และเราก็ไม่จำเป็นต้องใช้คอลัมน์จำนวนมากในการสื่อสาร แค่ใช้คอลัมน์ที่จำเป็น ที่ได้เลือกและคัดสรรค์มาแล้ว ทำให้เรียบง่ายกว่า ตรงไปตรงมา และสื่อสารได้มีประสิทธิภาพมากว่า
ตัวอย่างที่ดี
ดี เพราะ คอลัมน์ที่เลือกใช้ เป็นคอลัมน์ที่ได้คัดสรรค์เลือกมาอย่างดีแล้ว ว่าคอลัมน์นั้นๆเป็น คอลัมน์ที่จำเป็นต้องมีตัวอย่างที่ไม่ดี
ไม่ดี เพราะ แต่ละคอลัมน์ไม่มีอะไรโดดเด่นขึ้นมา ทำให้ไม่สามารถกำหนดได้ว่าควรจะมองที่ตรงไหนก่อน ทุกคอลัมน์มีความสำคัญเท่ากันหมดซึ่งทำใหดูกลืนเข้าไปในหน้าเว็บตัวอย่างที่ใช้หลายคอลัมน์ได้
ที่สามารถใช้ได้หลายคอลัมน์เพราะแต่ละคอลัมน์ได้ถูกออกแบบ แยกสัดส่วนมาอย่างชัดเจน ว่าด้านซ้ายเป็นเมนู ตรงกลางเป็นสินค้าซึ่งถูกแบ่งโดยช่องว่าง ทำให้ไม่ดูรกตา -
แยกส่วนหัวของหน้าเว็บอย่างชัดเจน
หมายถึงการทำให้ส่วนหัวของหน้าเว็บซึ่งหมายถึงส่วนโลโก้และเมนู โดดเด่นขี้นมาจากส่วนอื่นๆ
เทคนิคนี้ไม่ใช่อะไรที่ใหม่ มีการประยุกต์ใช้มานานแล้ว เพราะเป็นเทคนิคที่ดี แต่ปัจจุบันมีการนำมาใช้มากขึ้นเป็นพิเศษ และได้มีการแบ่งสัดส่วนอย่างขัดเจนมากขึ้นดังเช่นตัวอย่างต่อไปนี้
การแบ่งสัดส่วนหัวของหน้าเว็บไว้อย่างชัดเจนนั้นดีตรงที่ ได้แบ่งสัดส่วนให้แน่ชัดว่าส่วนไหนคือส่วนเริ่มของหน้าเว็บ ซึ่งเป็นการเน้นหลักการดีไซน์สไตล์ยุค 2.0 ที่ต้องการแสดงเนื้อหาอย่างหนักแน่น เรียบง่ายและตรงไปตรงมาและการแยกส่วนหัวของหน้าเวปนั้นสามารถทำได้หลายวิธีเช่น ใช้สีที่โดดเด่นแตกต่างจากเนื้อหาที่เหลือดังเช่นตัวอย่างข้างต้น หรือจะใช้เส้นขีดแบ่งดังตัวอย่างต่อไปนี้ก็ได้
หรือจะแค่วางโลโก้ไว้ข้างนอกเนื้อหาดังตัวอย่าง -
แยกส่วนต่างๆของหน้าเว็บอย่างชัดเจน
ส่วนต่างๆของหน้าเว็บประกอบไปด้วย
- เมนู
- พื้นหลัง
- เนื้อหา
- ส่วนอื่นๆ
- ลิงค์
การที่จะจัดกลุ่มแบ่งแยกส่วนต่างๆได้อย่างชัดเจนที่สุดคือการเล่นสี
แต่การใช้ช่องว่างก็สำคัญไม่แพ้กันข้อควรระวังของการเล่นสีคือ สีสรรคต่างๆจะดึงดูดความสนใจไปจากเนื้อหาที่สำคัญ ดังนั้นการวางเนื้อหาลงบนผืนผ้าใบที่ขาวสะอาดจะช่วยให้ผู้ชมรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
-
เมนูเรียบง่าย
เมนูหลักของหน้าเว็บควรมีสักษณะโดดเด่น สังเกตุเห็นและมองออกได้ง่ายว่าเป็นเมนู โดยการใช้ font ที่หนาใหญ่สะอาดและชัดเจน รวมถึงลิงค์ต่างๆในเนื้อหาควรดูโดดเด่นแตกต่างจากเนื้อหาที่เหลือ
เพราะ เราต้องการให้ผู้เยี่ยมชมเว็บไซด์ของเราบอกได้ว่าส่วนไหนเป็นเมนู เพื่อให้รับทราบถึงข้อมูลต่างๆว่า
- ตอนนี้อยู่ที่จุดไหนแล้ว
- สามารถไปที่ไหนได้อีก
- แสดงทางเลือกต่างๆให้ชัดเจน
เราสามารถทำให้เมนูดูโดดเด่นได้โดย
- แยกส่วนออกมาจากเนื้อหา
- ทำให้ดูแตกต่าง โดยใช้โทนสี และรูปร่าง
- ใช้ตัวใหญ่และหนา
- ใช้ภาษาที่ชัดเจนและเป็นสากลเพื่อไม่ให้เกิดความสับสน
สิ่งสำคัญคือต้องทำให้ลิงค์และเมนูดูโดดเด่นแตกต่างจากเนื้อหาส่วนที่ไม่ได้เป็นลิงค์
-
โลโก้ตัวหนา
สอดคล้องไปกับหลักการดีไซน์ยุค 2.0 เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ชัดเจนและหนักแน่น
ตัวอย่างโลโก้ดังต่อไปนี้เป็นขนาดจริง สังเกตุได้ว่าขนาดจะค่อนข้างใหญ่
คุณสมบัติของโลโก้- แสดงออกให้มองเห็นได้อย่างชัดเจน
- จำได้ง่ายและแตกต่าง
- เป็นตัวแทนภาพลักษณ์
-
ตัวอักษรตัวใหญ่
เว็บดีไซน์ยุค 2.0 มีการใช้ตัวอักษรตัวใหญ่ขึ้นเมื่อเทียบกับเว็บสไตล์เก่าๆ การที่เราไม่ได้พยายามยัดเยียดเนื้อหาทำให้เรามีพื้นที่มากขึ้น และทำให้สามารถที่จะเลือกทำให้สิ่งสำคัญมีขนาดใหญ่กว่าสิ่งที่ไม่สำคัญ ซึ่งตัวอย่างการใช้งานที่ผ่านมาได้แก่การใช้ตัวอักษรใหญ่สำหรับหัวข้อต่างๆ
การใช้ตัวอักษรตัวใหญ่ทำให้เราสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคนสายตาสั้น ผู้อ่านที่อ่านผ่านๆ ผู้คนที่นั่งห่างไกลจากจอ หรือผู้ใช้จอ LCD ภายใต้แสงแดด
ถึงกระนั้นเราก็ควรมีเหตุผลในการกำหนดว่าส่วนไหน ควรจะใช้ตัวอักษรตัวใหญ่ ให้ใช้เฉพาะกับส่วนที่สำคัญ เพื่อกำหนดความโดดเด่นหลังจากที่ได้เคลีย พื้นที่แล้ว ไม่ใช่สักแต่ว่าทำให้ดูใหญ่ไปหมด จะทำให้ดูรก และไม่ได้ผล ถ้าต้องการจุเนื้อหาที่มีความสำคัญพอๆกัน จำนวนมากควรคงขนาดตัวอักษรให้ตัวเล็กเท่าๆกัน -
ตัวอักษรแนะนำตัวหนา
เป็นการสื่อข้อความหลักของเนื้อหา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นตัวอักษรกราฟฟิกมากกว่าตัวอักษรธรรมดา เนื่องจากนักออกแบบต้องการจะควบคุมสิ่งที่หน้าเว็บต้องการจะสื่ออย่างชัดเเจน
แนะนำให้ใช้เมื่อเป็นสโลแกนหลักเท่านั้น -
สีสันสดใส
สีสันที่สดใสมีคุณสมบัติในการดึงดูดสายตา เราสามารถใช้สีที่ตัดกันแบ่งส่วนต่างๆของหน้าเว็บ หรือกำหนดให้ส่วนที่สำคัญดูโดดเด่นขึ้นมาได้
แต่ก็ควรระวังไม่ใช้สีสดเกินไปล้อมรอบเนื้อหา เพราะจะทำให้สายตาถูกดึงหนีไปจากเนื้อหาหลัก ดังเช่นตัวอย่างต่อไปนี้
แล้วก็อย่าลืมว่าการที่จุดนึงในหน้าเว็บจะดึงดูดสายตาได้ด้วยสีสันที่สดใส สีในจุดอื่นๆก็ควรจะอ่อนลงตามความสำคัญ มิฉะนั้นจะทำให้หน้าเว็บดูสับสนและยุ่งเหยิง -
มีลูกเล่นบนพื้นผิว
ลูกเล่นต่างๆบนพื้นผิวไม่ว่าจะเป็นการเล่นแสงเงาหรือการไล่สีให้เป็นสามมิติเล็กน้อย ทำให้ภาพกราฟฟิคต่างๆดูเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยและดูเสมือนวัตถุจริง ไม่ว่าจะเป็น คาร์บอนไฟเบอร์
หรือพลาสติกเงา
เทคนิคนี้จะใช้ได้ผลก็ต่อเมื่อเราทำให้หน้าเว็บมีส่วนที่เป็นสามมิติเพียงเล็กน้อยเพื่อเน้นความโดดเด่นเท่านั้น การทำให้ทุกอย่างเป็นสามมิติไปหมดนั้นไม่ใช่สิ่งที่ดี เพราะจะลดความเด่นของสิ่งที่เราต้องการที่จะเน้น และทำให้โหลดช้า
-
ไล่เฉดสี
การไล่เฉดสีสามารถ สร้างมิติ และ กำหนดบรรยากาศของหน้าเว็บได้
มีการนำมาใช้ให้ดูเป็นเงา หรือนำมาใช้บนปุ่มเมนู -
เงาสะท้อน
มีหลักๆอยู่ 2 แบบคือ
- เงาสะท้อนบนพื้นผิวของตัววัตถุเอง
- และเงาสะท้อนบนพื้นผิวที่วัตถุวางอยู่
หรือจะนำมาประยุกต์ใช้ให้วัตถุมีเงาสะท้อนบนกลับไป บนพื้นผิวของตัววัตถุเอง ก็จะได้ภาพกราฟฟิคที่น่าสนใจและสวยงาม
- เงาสะท้อนบนพื้นผิวของตัววัตถุเอง
-
Icon น่ารัก
ไอคอนต่างๆมีบทบาทมากขึ้นในดีไซน์ยุค 2.0 ปัจจุบันเราเลือกที่จะใช้ไอคอนจำนวนน้อยลง แต่มีความหมายมากขึ้น
การใช้ไอคอนจะมีประโยชน์ก็ต่อเมื่อมองออกได้ง่าย และสื่อสารความหมายได้อย่างชัดเจน
ในอดีตได้มีการใช้ไอคอนมากเกินไป เช่นใช้กับทุกเมนูที่มี ซึ่งปัจจุบันเรานิยมที่จะใช้ตัวอักษรที่สื่อความหมาย ได้อย่างชัดเจนกว่าและไม่ทำให้หน้าเว็บรกไปด้วยไอคอน
เราจะนำไอคอนมาใช้ในจุดที่สำคัญเท่านั้น
-
ป้ายดาว
ควรใช้เพื่อดึงดูดสายตาไปยังสิ่งที่สำคัญจริงๆเท่านั้น และไม่ควรใช้เกิน 1 ดาวต่อ 1 หน้า
ดี เพราะ ละเอียด ตื่นตา น่าสนใจ แต่ก็เรียบง่ายในขณะเดียวกัน
ตัวอย่างที่ไม่ดี
ไม่ดี เพราะ ยุ่งเหยิง มีขีดเส้นมากมายที่ไม่ได้ช่วยเป็นส่วนประกอบในการสื่อสาร หาเมนูได้ยากไม่โดดเด่น มีลายเส้นที่เบี่ยงเบนความสนใจของสายตามากไป
ทั้งนี้ทั้งนั้นเราไม่จำเป็นต้องใช้หลักการพวกนี้ทั้งหมด เพื่อให้เว็บมีหน้าตาเป็น 2.0 และการใช้หลักการออกแบบดังกล่าว ก็ไม่สามารถทำให้หน้าเว็บ มีรูปแบบที่ดีเสมอไป แต่การออกแบบหน้าเว็บให้มีความเหมาะสม และพอดีกับเนื้อหา และสิ่งที่ต้องการจะสื่อต่างหากที่สำคัญ
แปลและอ้างอิงจาก http://www.webdesignfromscratch.com/web-2.0-design-style-guide.cfm
ขอบคุณมากครับ มีประโยชน์ๆ:d/
great content. I like it.:d
เยี่ยมครับ บทความนี้ :”>
ช่วยกันศึกษาและพัฒนาเว็บไทยสู่ 2.0 กันดีกว่าครับ ตอนนี้ http://www.sanook.com กับ http://www.kapook.com เริ่มแล้ว
สุดยอดครับพี่อัฐ ว่าแต่ว่า ลบชื่อผมทำไมคับ รีบแอดมาด่วน ๆ :-w
ขอบคุณคับสำหรับบทความ
บทความที่ดี สำหรับคนที่จะพัฒนา 2.0 ท่าทางได้เวลาเปลี่ยนแปลงเวบไซต์ขนานใหญ่ล่ะ :d
ขอบคุณมากๆๆคับ เขียนได้ละเอียดจิงๆ
ขอบคุณนะคะ กำลังจะพัฒนาพอดีเลย
ขอบคุณมากครับที่ให้ความรู้ รู้สึกว่าได้อะไรไปเยอะมากๆเลย
font ไทยของ divland ใช้อะไรหรอครับ สวยจัง
ฟ้อนธรรมดาครับ Tahoma 14px ครับ ถ้าเล็กกว่านี้ใช้ Microsoft Sanserif จะดีกว่า ลองนึกถึงว่าให้อ่านง่ายสบายตาเป็นหลักครับ :)
ผมใช้บอร์ดของ smf อยู่ครับ ผมอยากนำ หัวข้อโพสล่าสุดออกมาไว้หน้าแรกของเว็บ ผมจะเรียก โค้ดตัวไหนครับ ช่วยบอกทีครับ:((:((:((
ผมอยากรู้ว่ามันมีแนวทางในการพัฒนาไปสู่เว็บ 2.0 อย่างไรบ้าง
เชื่อมคนเข้าไว้ด้วยกันครับ
ผมว่า http://www.sanook.com กับ http://www.kapook.com พยายามทำตัวเป็น web 2.0 แต่ผมว่า เค้ายังไม่ได้ถึง 1.5 เลย อย่างในบทความนี้ แค่ข้อแรก เค้าก็ไม่ผ่านแล้ว ไม่รู้มีอะไรเต็มหน้าไปหมด ยัดเข้าไป เปิดมาไม่รู้จะเริ่มอ่านจากตรงไหนก่อน
สำหรับ เว็บ portal แล้ว หน้าแรกเป็นขุมทรัพย์ ครับ เพราะคนมักไม่คลิกไปดูข้างใน เลยต้อง ยัดเนื้อหาลงหน้าแรก จนเต็มไปหมด และเพิ่มตำแหน่งโฆษณา ด้วย
just a design of web 2.0
not theory
เป็นเว็บที่ดีมากคับให้ความรู้ได้ดีมากสำหรับคนที่ยังไม่ค่อยเป็น CSS
เป็นบทความที่ดีมากครับ สามารถนำไปใช้ได้เลยนะเนี่ย
ขอบคุณหลายๆ เด้อ “ไอ้นาย” … เราได้ความรู้ประดับสติปัญญาหลาย ขอจงเจริญ ชีวิตดี ครอบครัวมีสุขนะ :x
ได้ประโยชน์มากๆเลย ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ เนื้อหาดี
ขอบคุณสำหรับเนื้อหาดีๆ นะคะ กำลังฝึก Css อยู่ค่ะ:)>-
เป็นบทความที่ดีครับ อ่านแล้วเพลิน สมองแล่นตามเลย ;)
เนื้อหาแน่นมาก ได้ความรู้เยอะเลย ขอบคุณมากครับ :d
สุดยอดครับ ภาพประกอบยอดเยี่ยม เห็นกระจ่างเลย ว่าเว็บตัวเองเป็นยังไง
ขอบคุณนะครับ เขียนออกมาได้กระจ่าง และมีรูปภาพประกอบทำให้เห็นภาพเลย:)
สวยงามมากครับ ข้อมูลแน่นปึกเลย :d/
เจ๋งดีครับของคุณครับ ละเอียดดี เป็นประโยชน์มากครับ :D :)
มาเก็บความรู้ค่ะ
สวยงามมาก Idea สุดยอด
ขอบคุณมากครับ กำลังทำเว็บไซท์อยู่ครับ แต่ตอนนี้เริ่มจะปวดหัวและ แต่งไปแต่งมามันก็ยิ่งรกขึ้น ดูแคบไปหมด -*- ได้มาอ่านอย่างนี้แล้วอันเก่าจาลบไปเลยครับ เหอๆๆๆ ไอเดียใหม่มาแว้ว ขอบคุณมากนะคับ
ขอบคุณจริงๆ :d
แนวนี้ชอบมากเลยครับ
ข้อมูลดีๆแบบนี้หามาบอกกันเรื่อยๆนะครับ
ขอบคุณครับ อ่อนดีไซน์พอดี :d
วันนี้ขอเบิ้ล 2 บทความเลยครับ ว่างๆ มานั่งอ่านบทความเพลินๆ
อ่านแล้วได้ไอเดียใหม่ๆ เพียบเลยครับ
ขอบคุณอีกครั้งครับ
วิท (http://www.tutorpoint.net)
http://www.webdesignfromscratch .com
แปลให้ครบทุกบทหน่อยครับ ชอบ:d
ท่านเว็บมาสเตอร์ ความสามารถเยอะจริงๆ ค่ะ
เป็นประโยชน์มากเลยค่ะ:)
ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ มีประโยชน์มาก ๆ เลย :(:d
มีประโยชน์มากครับ
ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ:)>-
แต่บางที ธีมมันบังคับให้เว็บบล็อกดูไม่ค่อยสวย ไม่ค่อยมีระเบียบอยู่ดีอ่ะ
เป็นบทความที่ดีจริงๆครับ เห็นภาพความแตกต่างชัดเจนเลย
ได้ความรู้มากเลยครับ จะนำไปพัฒนากับเว็บตัวเองหน่อย ขอบคุณสำหรับบทความดีๆแบบนี้น่ะครับ
ได้แนวคิดในการสร้างเว็ปใหม่
ขอบคุณมากครับ
web2.0 concept เรียบหรู ดูดี