เวิร์ดเพรสธีม บทที่ 5_3:Postmetadata
Dec 22nd
เวิร์ดเพรสธีม บทที่ 5_3: ข้อความที่เกี่ยวเนื่องกับบทความ(Postmetadata) ต่อ
วันนี้เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับ ข้อความเกี่ยวเนื่องแต่ละบทความในบล็อก(postmetadata) : วันที่, ประเภท, ผู้เขียนบทความ, จำนวนคอมเม้นท์ และข้อความต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับบทความ
ก่อนที่จะเริ่ม ให้เปิด โฟลเดอร์ธีม, เบราเซอร์ และไฟล์ index.php ในไฟล์ index.php คุณจะต้องมีโค้ดดังรูป
ขั้นตอนที่ 1:
คัดลอกโค้ดจากไฟล์ postmetadata.txtไว้ใต้ <?php the_content(); ?> (หมายเหตุ: สำหรับส่วนนี้คุณสามารถคัดลอกและวางได้เลย ตอนที่ผมทำธีมเวิร์ดเพรสผมก็คัดลอกส่วนนี้มาใช้เลย ซึ่งส่วนนี้เราไม่จำเป็นต้องเข้าใจอย่างละเอียดก็ได้ เพียงแค่รู้ว่าส่วนนี้มันทำอะไรก็ได้แล้ว)
รูปข้างล่างนี้ผมจัดให้เพียงพอต่อพื้นที่ แต่สำหรับท่านผู้อ่าน ผมขอให้จัดโค้ดให้เป็นระเบียบนะครับ เพื่อให้ง่ายต่อการดูโค้ด
กดบันทึกและรีเฟรชเว็บเบราเซอร์ ผลลัพธ์จะออกมาเป็นดังรูป
คุณสามารถลองเปิดดู source code ที่เบราเซอร์เพื่อดูว่าข้อความเกี่ยวเนื่องบทความในโค้ดฝั่งไคลเอนท์เป็นยัง ไง ยังจำวิธีดู source code ได้ไหมครับ ให้ไปที่ View>Page Source หรือ Source
คำอธิบาย:
-
<p class="postmetadata"> และ </p>
– ข้อความที่เกี่ยวเนื่องกับบทความจะอยู่ระหว่างแท็ก p นี้ เพราะว่า เราต้องแยก ข้อความที่เกี่ยวเนื่องกับบทความ ออกจากส่วนของเนื้อหา ไม่งั้นมันจะไม่มีช่องว่าง แลดูไม่เป็นระเบียบ และไม่รู้ว่าส่วนไหนคือ เนื้อหา ส่วนไหนคือ ข้อความที่เกี่ยวเนื่องกับบทความ
-
<?php _e('Filed under&#58'); ?>
&#58 : คือโค้ดที่ใช้แทนตัวโคลอน ?:? การนำ Filed under: มาใส่ไว้ใน <?php _e(‘ ‘); ?> ไม่มีความสำคัญเท่าไหร่ คุณสามารถพิมพ์ Filed under: ไปเลยก็ได้
-
<?php the_category(', '); ?>
– the_category() คือฟังก์ชันที่เรียกชื่อประเภทของบทความที่คุณได้เลือกไว้ให้กับบทความมา แสดง เราวาง Filed under: ไว้กับ the_category() เพื่อให้มันแสดงออกมาเป็น Filed under: ชื่อประเภท 1, ชื่อประเภท 2 คอมม่าที่เราใส่เข้าไปในฟังก์ชัน the_category() ก็คือตัวที่เอาไว้แยกชื่อประเภทบทความออกจากกัน (ในกรณีที่บทความหนึ่งจัดอยู่ในหลายประเภท) ดูตัวอย่างได้จากรูปด้านบนที่ใช้คอมม่าขั้นระหว่างชื่อประเภทบทความ
-
<?php _e('by'); ?>
– เหมือนกับ Filed under: ถ้าคุณทำธีมเพื่อใช้ส่วนตัวการนำ _e() มาครอบข้อความไว้ดูจะเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น การนำ _e() ครอบข้อความไว้ก็เพื่อมาร์คไว้ว่าส่วนนี้เป็นข้อความที่ต้องแปล ในกรณีที่คุณทำธีมเพื่อแจกจ่าย ให้คนหลากหลายชาติใช้
-
<?php the_author(); ?>
– ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วครับ คือพิมพ์ชื่อผู้แต่งหรือผู้เขียนบทความออกมา
- <br /> – ใช้ br ถ้าคุณต้องการขึ้นบรรทัดใหม่ แต่ไม่ต้องการให้มีช่องว่างระหว่างบรรทัด
-
<?php comments_popup_link('No Comments ?', '1 Comment ?', '% Comments ?'); ?>
– ฟังก์ชัน comments_popup_link() จะแสดงออกมาเป็นลิงค์เมื่อเราคลิกที่ลิงค์จะมีหน้าต่างแสดงคอมเม้นท์เด้ง ขึ้นมา ในกรณีที่ popup comment ถูกเปิดใช้งาน แต่ถ้า popup comment ถูกปิดใช้งาน ฟังก์ชัน comments_popup_link() จะแค่แสดงเป็นลิงค์ที่นำพาคุณไปที่คอมเม้นท์(ไม่มีหน้าต่างเด้งขึ้นมา) No Comments ? จะแสดงเมื่อในบทความนั้นไม่มีคอมเม้นท์ 1 Comment ? จะแสดงเมื่อในบท ความนั้นมีคอมเม้นท์เดียว % Comments &187; จะแสดงเมื่อบทความมีความเม้นท์มากกว่าหนึ่งคอมเม้นท์ เช่น 8 Comments ? เครื่องหมายเปอร์เซ็น หมายถึง ตัวเลขจำนวนคอมเม้นท์ ? คือโค้ดแทนเครื่องหมายลูกศรคู่
-
<?php edit_post_link('Edit', ' | ', ''); ?>
– ในส่วนนี้จะเห็นได้ก็ต่อเมื่อคุณล็อกอินเข้าสู่ระบบแล้วเท่านั้น edit_post_link() ใช้เพื่อแสดงลิงค์ไปยังหน้าแก้ไขบทความนั้น ๆ แทนที่คุณจะต้องไปเลือกเอาจากหน้าส่วนบริหารจัดการเพื่อแก้ไขบทความ ฟังก์ชัน edit_post_link() มีพารามิเตอร์อยู่ 3 ตัว ตัวแรกคือคำที่ใช้แสดงเป็นชื่อลิงค์ เช่น คุณใส่คำว่า Edit post เข้าไป ลิงค์ที่แสดงออกมาก็จะเป็นคำว่า Edit post ตัวที่สองคือเครื่องหมายหรือตัวอักษรไรก็ได้ ที่จะแสดงออกมาก่อนลิงค์ ในบทความนี้เราจะใช้เส้นตั้ง | ส่วนตัวที่สามคือเครื่องหมายหรือตัวอักษรไรก็ได้ที่จะแสดงหลังลิงค์ ในบท ความนี้เราจะไม่ใส่ไรเลย
ล็อกอินเข้าสู่ระบบแล้วไปที่หน้าแรกของบล็อก คุณจะเห็นลิงค์แก้ไข อยู่ด้านหลังเครื่องหมาย |
กำลังรอคอยตอนใหม่อย่างใจจดใจจ่อเลยครับ
เพิ่งรู้จักคำสั่ง _e() ก็วันนี้ละครับ
สู้ต่อไปครับ
นับถือในน้ำใจจริงๆ :d
บทความดี เนื้อหาเด่น
ติดตามอยู่นะครับ เป้นกำลังใจให้ อิอิ :d
Thanks so much for good article THANKS :)
ท่าน miracle นี่ขยันจริงๆ ผมไม่ได้ออกธีมมาซักระยะแล้วสงสัยต้องเอาไฟจาก Divland ไปอัพเดตงานหน่อยแร้ว :d/
เขียนได้ดีมากๆ ครับ
ความรู้แบบนี้ชอบจริงๆ
Thank you for good information
สัญญาว่าผมต้องมาอ่านอีกแน่ๆ